สภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นสากล

ผมเริ่มงานกับแชฟฟ์เลอร์ในฐานะเด็กฝึกงานในปี 2003 เพื่อสานต่อประเพณีของครอบครัว ปู่ของผมเป็นหนึ่งในพนักงานแชฟฟ์เลอร์คนแรกๆ ในปี 1950 ตามด้วยพ่อของผมและสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ที่ทำงานให้กับแชฟฟ์เลอร์ในแฮร์โซเกอเนารัค หลังจากใช้เวลา 2-3 ปีในการทำงานในการผลิตตลับลูกปืนเม็ดโค้งตามแนวแกน ผมก็มาปรับเปลี่ยนสายงานมาทำงานด้านการพัฒนา อย่าง MOVE

ผมใช้เวลา3ปีในการจัดเวิร์กช็อปและฝึกอบรมในแผนกต่างๆ ทั่วโลก ในปี 2014 ผมได้รับโอกาสในการทำงานในประเทศจีนในตำแหน่งผู้จัดการคนแรกที่เป็นผู้นำแผนกวิศวกรรมอุตสาหการตั้งแต่นั้นมา ผมก็อยู่ในเอเชีย ซึ่งทำให้ผมสามารถเพิ่มความสามารถข้ามวัฒนธรรมของผมต่อไปได้ ตลอดอาชีพการงานของผมกับแชฟฟ์เลอร์ ผมได้รับพรเสมอจากผู้นำที่ไว้วางใจในความสามารถของผม ให้โอกาสผมในการเติบโต และมอบการฝึกสอนที่โดดเด่นให้ผมเพื่อพัฒนาตนเอง และนี่คือวิธีที่สร้างผมจากเด็กฝึกงานจนกลายเป็นผู้บริหารของแผนกหลังการขาย เอเชียแปซิฟิกในทุกวันนี้

ปลายปี 2561 ผมได้มีโอกาสทำงานที่แชฟฟ์เลอร์ประเทศไทยในฐานะ expat ที่มาถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการผลิตให้กับพนักงานฝ่ายผลิต ซึ่งต่อมาผมได้รับตำแหน่งหัวหน้าทีม ด้วยการสนับสนุนอย่างดีจากเพื่อนร่วมงานและความช่วยเหลือของโปรแกรม Move Tools ผมสามารถปรับปรุงและบรรลุเป้าหมายการปฏิบัติงานประจำวันของผมได้ ไม่ต้องพูดถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนในการทำงานและถ่ายทอดความรู้ที่ขาดไม่ได้ให้กับพนักงาน

ผมเริ่มงานกับ Schaeffler ในเดือนมกราคม 2562 ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายคุณภาพซัพพลายเออร์และการพัฒนาซัพพลายเออร์เอเชียแปซิฟิก ผมเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับแชฟฟ์เลอร์เนื่องจากความกระตือรือร้นในเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะ E-Mobility และความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าต่อความยั่งยืน ความยั่งยืนเป็นหัวข้อที่ตรงใจผมอย่างมาก ดังนั้นความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกและมอบอนาคตที่ดีกว่าสำหรับครอบครัวจึงกลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของผม

ในเดือนพฤศจิกายน 2562 ผมได้รับโอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง และตอนนี้ผมเป็นหัวหน้าทีมการจัดการซัพพลายเออร์ของเอเชียแปซิฟิก ด้วยขอบเขตเพิ่มเติมในด้าน E-Mobility, ความยั่งยืน, การบูรณาการซัพพลายเออร์และโลจิสติกส์, การวิเคราะห์มูลค่าต้นทุน และ SPS@Suppliers การจะประสบความสำเร็จได้ เราต้องลงทุนในความสามารถในท้องถิ่นของเรา สนับสนุนพวกเขา และทุ่มเทอย่างแรงกล้า นี่คือสิ่งที่ผมมุ่งมั่นอย่างมากที่จะทำโดยการเพิ่มขีดความสามารถหรือความสามารถในท้องถิ่นเพื่อเป็น “ผู้นำแห่งอนาคตของเรา” ในขณะที่เราเผชิญกับความท้าทายมากมายในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนนี้ เราสามารถบรรลุความสำเร็จที่เหลือเชื่อได้ตราบเท่าที่เรายึดมั่นในความไว้วางใจ ความโปร่งใส และการทำงานเป็นทีม

การเดินทางของผมในแชฟฟ์เลอร์เริ่มต้นขึ้นในปี 2007 ที่บราซิลในฐานะผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจยานยนต์ ผมได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากบริษัทเสมอมาเพื่อยกระดับตัวเองและเติบโตในอาชีพการงานผ่านการฝึกอบรมเป็นประจำในบราซิลและที่สำนักงานใหญ่ในเยอรมนี ในปี 2016 ผมได้รับโอกาสให้ย้ายไปที่แชฟฟ์เลอร์ประเทศไทย และเข้าร่วมทีมผลิตภัณฑ์หลังการขายของเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นความท้าทายครั้งใหม่และน่าตื่นเต้นในการพัฒนาและขยายธุรกิจในภูมิภาคประสบการณ์ในการทำงานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนจากประเทศ วัฒนธรรม ภาษา และภูมิหลังที่แตกต่างกัน ทำให้ผมรับรู้ถึงความท้าทายที่ใกล้เข้ามามากขึ้น สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจตลอด 14 ปีที่ผ่านมาคือการที่แชฟฟ์เลอร์แม้จะมีขนาดใหญ่มาก แต่ก็ยังรักษาสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและเหมือนครอบครัวในทุกสถานที่ทั่วโลก